ถ้าต้องอยู่ในสภาพช่วยตัวเองไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตั้งแต่อายุ 40 ปี และสมองเสื่อมตั้งแต่อายุ 50 ปี
ด้วยเหตุนี้แนวคิดทางการแพทย์สมัยใหม่ที่เรียกว่า Anti-aging จึงมองว่าความชรานั้นเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถชะลอและรักษาได้และได้คิดค้นวิธีการ เพื่อให้คนเรามีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพและความสุขที่ยาวนานที่สุด แตกต่างกับการแพทย์ปัจจุบัน ซึ่งเน้นการตรวจวินิจฉัยหา
อาการป่วยเพื่อให้การรักษา ซึ่งนั่นก็หมายถึงเราต้องเจ็บป่วยเสียก่อนจึงจะทำการรักษา ซึ่งในความเป็นจริงเมื่อถึงเวลานั้นจะเหลือความพิการเอาไว้
ด้วยเหตุนี้การแพทย์ชะลอวัย หรือ Anti-aging จึงให้ความสำคัญกับการตรวจเช็คระดับลึกที่เกี่ยวข้องถึงการทำงานของอวัยวะต่างๆตลอดจนฮอร์โมนต่างๆซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมกลไกการทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆในร่างกาย การปรับสมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
และให้การดูแลกลไกการทำงานของอวัยวะต่างๆให้เป็นปกติอยู่เสมอ
อาการป่วยเพื่อให้การรักษา ซึ่งนั่นก็หมายถึงเราต้องเจ็บป่วยเสียก่อนจึงจะทำการรักษา ซึ่งในความเป็นจริงเมื่อถึงเวลานั้นจะเหลือความพิการเอาไว้
ด้วยเหตุนี้การแพทย์ชะลอวัย หรือ Anti-aging จึงให้ความสำคัญกับการตรวจเช็คระดับลึกที่เกี่ยวข้องถึงการทำงานของอวัยวะต่างๆตลอดจนฮอร์โมนต่างๆซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมกลไกการทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆในร่างกาย การปรับสมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
และให้การดูแลกลไกการทำงานของอวัยวะต่างๆให้เป็นปกติอยู่เสมอ
การขับสารพิษออกจากเลือด จะทำให้หลอดเลือดสะอาด
เลือด เป็นส่วนหนึ่งที่นำเอาสารอาหารต่าง ๆ และออกซิเจนไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย จึงนับว่ามีความสำคัญอย่างมากในการหล่อเลี้ยง
ร่างกาย การไม่กระจายตัวของเลือด การไหลเวียนที่ไม่ดี การสะสมสารพิษในกระแสเลือด รวมทั้งสารอาหารส่วนเกินที่ตกค้างในหลอเลือด
เช่น ไขมัน หรือโปรตีนที่ดูดซึมไม่หมด รวมทั้งโลหะหนักต่าง ๆ จากอาหารทะเล หรือสารเคมีต่าง ๆ ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหลอดเลือด
เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หลอดเลือดตีบ หลอดเลือดโป่งพอง โรคหัวใจ เป็นต้น
ร่างกาย การไม่กระจายตัวของเลือด การไหลเวียนที่ไม่ดี การสะสมสารพิษในกระแสเลือด รวมทั้งสารอาหารส่วนเกินที่ตกค้างในหลอเลือด
เช่น ไขมัน หรือโปรตีนที่ดูดซึมไม่หมด รวมทั้งโลหะหนักต่าง ๆ จากอาหารทะเล หรือสารเคมีต่าง ๆ ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหลอดเลือด
เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หลอดเลือดตีบ หลอดเลือดโป่งพอง โรคหัวใจ เป็นต้น
ดังนั้น การช่วยขับสารพิษออกจากเลือด จะทำให้หลอดเลือดสะอาด การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และสามารถนำออกซิเจน และสารอาหารต่าง ๆ ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่ายอีกต่อไป
ส่วนประกอบในดีท๊อกซ์เลือด
- ฝางเสน บำรุงโลหิตสตรี ขับประจำเดือน แก้ปอดพิการ ขับหนอง แก้ท้องร่วง แก้ธาตุพิการ แก้ร้อน แก้โลหิตออกทางทวารหนักและเบา แก้คุดทะราด แก้เสมหะ แก้โลหิต แก้เลือดกำเดา
- เทียนดำ บำรุงโลหิต แก้บิด แก้แสบร้อน คันตามผิวหนัง แก้โรคโลหิตจาง สมานแผล แก้ไตพิการ
- โกฐหัวบัว บำรุงโลหิต ทำธาตุให้บริบูรณ์ บำรุงเส้นเอ็นแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงกระดูกให้แข็งแรง เป็นยาอายุวัฒนะ
- แก่นแสมสาร ขับลมในกระดูก ขับโลหิตประจำเดือนสตรี ขับถ่ายโลหิตระดูสตรีให้ปกติ แก้กระษัย
วิธีรับประทาน
รับประทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนเข้านอน (แต่ไม่ควรเกิน 3 ทุ่ม) อาจเพิ่มหรือลดปริมาณตามธาตุหนัก-เบา ของแต่ละคนหลังรับประทานต่อเนื่องกัน 3 สัปดาห์จะเห็นผลชัดเจนมาก
คำแนะนำ
ห้ามใช้ในผู้หญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยที่มีอาการเลือดไหลหยุดยาก ควรดื่มน้ำ และรับประทานผักและผลไม้มากๆ
สั่งซื้อไดที่ 086-3770667
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น